Learning Log week
1
สิ่งที่ได้เรียนรู้ในห้องเรียนเกี่ยวกับการเรียนรู้อย่างเข้าใจว่าการเรียนให้ได้ประสิทธิภาพนั้นต้องเกิดจากความเข้าใจทั้งตัวผู้เรียนและผู้สอนและหลักการแปลในเบื้องต้น และดิฉันได้ค้นคว้าเพิ่มเติมจากอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับการเรียนรู้อย่างเข้าใจเพื่อต่อยอดและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากขึ้น
การเรียนรู้อย่างเข้าใจ คือ I+1 =
Comprehensible Input
Input
= Background Knowledge(student)
1= Teachers สิ่งที่ครูจะนำมาสอนให้กับผู้เรียนจะต้องมีความยากเป็น
1 จากสิ่งที่ผู้เรียนเคยเรียนรู้มาก่อน
Comprehensible Input
= ความเข้าใจของผู้เรียนในสิ่งที่ได้เรียนรู้
ความเข้าใจของดิฉัน คือ ครูจะต้องรู้ว่าผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้มากน้อยแค่ไหน
เพระครูจะสามารถจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียนให้เกิดความเข้าใจมากที่สุด
หลักในการแปล
คือ สั้นกะทัดรัด
ใจความครบถ้วนสมบูรณ์ผู้แปลจะต้องเป็นผู้รู้ภาษาอย่างดี และมีความรู้ความสามารถในเรื่องการแปล เช่น
He lived in
Nakhon Si Thammarat
for a year.
He has lived
in Nakhon Si
Thammarat for a
year.
สองประโยคข้างต้นมีรูปประโยคที่คล้ายกันแต่สิ่งที่บอกความแตกต่างของสองประโยคนี้คือ tense
จะเป็นสิ่งที่บอกให้เรารู้ว่าเหตุการณ์นั้น ยังเกิดขึ้นอยู่ หรือจบลงไปแล้วหรือกำลังทำอยู่ เป็นต้น
การเรียนรู้อย่างเข้าใจที่ดิฉันได้ไปค้นคว้าเพิ่มเติม I+1=Comprehensible Input
I+1 คือ
พัฒนาจากสิ่งที่มีอยู่แล้วจากการเรียนรู้สิ่งต่างๆเพื่อช่วยให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น เพราะบางครั้งเด็กต้องใช้ความรู้ (I)
เพื่อที่จะเรียนรู้เรื่องต่อไป (I+1) เป็นการต่อยอดความรู้ สิ่งที่จะช่วยให้เข้าใจมากที่สุด คือ
บริบท
แหล่งข้อมูลที่สามารถป้อนให้เข้าใจได้
(comprehensible Input) มี 3 แหล่ง 1. การพูดของชาวต่างชาติ 2.
คำพูดของครู 3. คำพูดของคนใช้ภาษาสากล ทั้ง 3 แหล่งเป็นการเน้นการสื่อสารที่ข้อความ
ครูคือผู้ที่สามารถพูดให้นักเรียนเข้าใจไม่ใช่เน้นแต่โครงสร้างแต่ควรจะให้ความสำคัญกับการสื่อสารในสถานการณ์ที่เป็นธรรมชาติให้ผู้เรียนได้เข้าใจง่ายขึ้น
ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นพอจะสรุปได้ว่า I+1=comprehensible Input คือการต่อยอดความรู้ในสิ่งที่ผู้เรียนเคยได้เรียนรู้มาโดยอาศัยแหล่งข้อมูลที่จะป้อนให้กับผู้เรียนได้เกิดความรู้ความเข้าใจ
การเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดีและง่ายขึ้น และเรื่องการแปล tense
เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการแปล
เพราะ tense จะเป็นตัวบอกว่าแต่ละเหตุการณ์นั้นเป็นอย่างไร และเมื่อผู้แปลเข้าใจ
ก็จะสามารถแปลเรื่องได้ดีและผู้อื่นสามารถเข้าใจได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น