วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning log week 9

Learning log week 9
(ในห้องเรียน)
จากการเรียนรู้ในห้องเรียน วันที่ 22 ตุลาคม 2558ได้ศึกษาเกี่ยวกับ การลดรูปของ Adverb clause ซึ่ง Adverb clause คือ อนุประโยคย่อยที่ทำหน้าที่ขยายกริยา ขยายคุณศัพท์และขยายกริยาวิเศษณ์ในประโยคหลัก Adverb clause มีด้วยกันทั้งหมด 9 ประเภทและ Adverb clause สามารถนำมาลดรูปได้ให้อยู่ในรูปของ Phraseซึ่ง จากการเรียนรู้ในห้องเรียนวันนี้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการลดรูปของ Adverb clause of timeซึ่ง Adverb clause of time มักจะมีคำเชื่อมอยู่ข้างหน้า เช่น  After, Before, Once, Until, When, While, As soon as, Since  การลดรูปประเภทนี้สามารถทำได้หลายวิธีด้วยวิธีการ ดังนี้  1) ลดรูปได้เมื่อประธานของ adverb clause และ main clause  เป็นตัวเดียวกัน   2) ใช้ present participial phrase (V-ing) ในกรณีที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยา  3) ใช้ past participial phrase (V-ed) ในกรณีที่ประธานเป็นผู้ได้รับผลของการกระทำ  
ประเภทแรกสามารถลดรูปได้ถ้าหากประธานใน ประโยคหลักและประธานในอนุประโยคเป็นตัวเดียวกัน เช่น
- The seed is sown before it is watered.   =   The seed is sown before being watered.
- While he was crossing the street, he met his old friend. =  While crossing the street, he met his old friend.
- The water becomes hot after it heated. = The water becomes hot after being heated.
จะเห็นได้ว่าในรูปแบบนี้หากประธานเป็นตัวเดียวกันทั้งใน main clause และadverb clause เราจะลดรูปประธานใน adverb clause และตัด verb to be ออก จากนั้นเราก็ดูว่าประธานตัวนั้นเป็นผู้กระทำหรือประธานเป็นผู้ถูกกระทำ หากประธานตัวนั้นเป็นผู้กระทำ เราจะใช้ present participle (v-ing) หรือประธานเป็นผู้ถูกกระทำเราจะใช้ past participle (v-ed)
                ต่อไปคือหากประธานไม่ได้ชี้เฉพาะเจาะจงเราสามารถที่จะลดรูปประโยคนั้นได้เช่นกัน เช่น
-When a nurse observes the patient, the ease and difficulty of breathing are noted = When observing  the patient, the ease and difficulty of breathing are noted.
Before you take a bedpan to a patient, it should be clean. =  Before taking a bedpan to a patient, it should be clean.
แต่ถ้าหากว่าประธานตัวนั้นระบุมาเฉพาะเจาะจงว่าเป็นใครและไม่ใช่คนเดียวกันทั้งใน main clause และadverb clause ไมสามารถลดรูปได้ เช่น  After John comes, Mary left.,  Before he return from work, his wife cooked dinner. , When the sun radiates heat, sea water evaporates.
                หากการกระทำเกิดขึ้น ณ ตอนนั้นและการกระทำนั้นเสร็จสิ้นลงไปแล้วไม่สามารถลดรูปได้ เช่น He has lived here since he was born.
ถ้าประธานใน Adverb clause เป็นคำนาม และประธานใน main clause เป็นคำสรรพนามประธานทั้งสองตัวนั้นจะต้องสลับตำแหน่งกันก่อนจึงจะลดได้และลดประธานในmain clause เช่น After water is heated, it becomes hot. เมื่อสลับที่แล้วจะได้เช่นนี้  After it is heated, water becomes hot. เมื่อสลับที่แล้วสามารถลดรุปได้เลย After being heated, water becomes hot
                การลดรูปของ Adverb of time มี 4 ประเภทด้วย คือ ขึ้นต้นด้วยคำว่า After, Before หรือ Since มีกฎการลดได้ดังนี้ 1. ละประธานใน Adverb clause ที่เป็นตัวเดียวกันกับใน main clause   2. ละ กริยาช่วยทั้งหมดใน Adverb clauseและเปลี่ยนกริยาเป็น V-ing เมื่อกริยาใน adverb clause เป็นผู้กระทำ แต่ถ้ากริยาใน adveb clause เป็น present หรือ past perfect tense กริยาช่วยที่เป็น have/has/ had เปลี่ยนเป็น having และตามด้วย past participle และถ้ากริยาใน adverb clause ประธานเป็นผู้ถูกกระทำจะเปลี่ยนเป็น Being + past participle 3. สรุปว่าคำที่ขึ้นต้นด้วย After, Before, Since ปกติจะลดรูปได้และจะเริ่มต้นด้วย V- ing หรือไม่นั้นขึ้นอยู่ว่าประธานเป็นผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ
 ตัวอย่างเช่น   After he finished high school, he continued his studies for bachelor degree.= After finishing high school, he continued his studies for bachelor degree., After he had   finished  high school, he continued his studies for bachelor degree.=   After having  finished  high school, he continued his studies for bachelor degree., After the nurse has applied soap to her hand, she was them. = After having applied soap to her hands, the nurse washes them. = After applying soap to her hands, the nurse was them.
                ข้อควรระมัดระวัง  1. After, Before, Since สามารถตามได้เพียง V-ing ทั้ง ประธานเป็นผู้กระทำและประธานเป็นผู้ถูกกระทำ และไม่สามารถตามด้วย  V-ed เหมือนกับข้างต้นได้ เช่น The seed is sown before it is watered.   =   The seed is sown before being watered. She has not  work since she left school. =  She has not  worked since she leaving school. 2. สามารถใช้ prior to แทนที่ before ในการลดรูปได้ เช่น  Before the seedling manufactures food for itself, it uses up the food stored in the seed. = Before/ Prior to manufacturing food for itself, the seedling uses up the food stored in the seed.
                ซึ่งจากการศึกษาก็พบได้ว่าการลดรูปของ Adverb clause of time สามารถทำได้หลายรูปแบบซึ่งขึ้นอยู่กับว่าประธานทั้งใน main clause และใน adverb clause เป็นตัวเดียวกันและสามารถลดรูปได้เป็น Present participle ในกรณีที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาและ สามารถลดรูปเป็น Past participle ได้ในกรณีประธานเป็นผู้ถูกกระทำ ซึ่งก่อนจะลดจะต้องตัด กริยาช่วยใน Adverb clause ออกก่อนแล้วจึงลดรูปได้ดังที่กล่าวมา ซึ่งหากเราเข้าใจแล้วเราสามารถนำมาใช้กับการแปลได้คือเราสามารถรู้ว่าประโยคที่ลดรูปมาแล้วนั้นรูปเต็มของประโยคเป็นอย่างไร หากเข้าใจเราก็จะสามารถแปลได้เข้าใจและรู้เรื่องมากยิ่งขึ้น




Learning log บ่าย 30

Learning log  บ่าย 30
                สำหรับในช่วงบ่ายของวันที่ 30 ตุลาคม ซึ่ง ผศ.ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร เป็นวิทยากรในการดำเนินกิจกรรมอีกครั้งหนึ่ง จะเห็นได้ว่าในการเรียนในยุคปัจจุบันนี้เราสามารถที่จะให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากสื่อการเรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต โทรทัศน์ หนังสือนอกเวลา เป็นต้น ซึ่งสามารถที่จะนำมาปรับใช้ให้กับชั้นเรียนของเราได้และอีกกิจกรรมหนึ่งซึ่งสามารถที่จะดึงดูดความสนใจของผู้เรียนได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือการเล่นเกมส์ ซึ่งวิทยากรก็ได้ใช้กิจกรรมเหล่านี้ด้วยเช่นกันในการอบรม
                กิจกรรมแรกในการอบรมวิทยากรได้ให้ชมรายการ กด Like วันทีน และรายการ Hello English ซึ่งวิทยากรได้เป็นพิธีกรในทั้งสองรายการ ทั้งสองรายการนี้จะเดินทางไปสถานที่ต่างๆและมีการสอนคำศัพท์ การออกเสียงคำศัพท์ และมีการยกตัวอย่างประโยคประกอบเพื่อให้เห็นได้ชัดและเข้าใจมากยิ่งขึ้น
                หลังจากนั้นวิทยากร ได้จัดกิจกรรมการเล่นเกมส์ให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม ชื่อเกมส์ว่า Tic tac Toe โดยให้ผู้เข้าร่วมการพูดอบรมจับคู่กันและร้องเพลงพร้อมกันพร้อมทั้งเต้นประกอบ ซึ่งมีเนื้อเพลงว่า  left and the left. Right and the right. Forward and backward. And tic tac toe. จากนั้นคนที่แพ้ก็ต่อแถวคนที่ชนะไปเรื่อยๆจนเหลือผู้ชนะเพียงคนเดียว เกมส์นี้จะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ได้ดีมาก เพราะมีการพูดคำศัพท์แต่ละคำซ้ำๆ
                นอกจากนั้นยังมีการเล่านิทานประกอบไปกับการเล่นเกมส์ โดยให้ผู้เข้าอบรมทุกคนส่งลูกบอลต่อไปเรื่อยๆถ้าลูกบอลไปตกที่ใครคนนั้นจะต้องออกมาเล่านิทาน หลังจากนั้นให้แบ่งกลุ่มและให้แต่ละกลุ่มวาดรูปนิทานที่ตนได้ออกไปเล่า โดยการให้สรุปเรื่องราวทั้งหมดให้ได้เพียง 3 ประโยคเท่านั้น การสอนโดยการใช้การเล่านิทาน ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์และฝึกทักษะการพูดอีกด้วย

                ซึ่งจากการเข้าอบรมในช่วงบ่ายของวันนี้ได้รับความสนุกสนานอย่างมากเพราะเป็นการบรรยายโดยการให้ผู้เข้าอบรมได้ร่วมทำกิจกรรมและเป็นการผ่อนคลายจะเห็นได้ว่าวิทยาใช้กิจกรรมต่างๆเป็นตัวการดำเนินการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นการเปิดวีดีโอให้รับชม การเล่นเกมส์หรือการทำกิจกรรมต่างๆซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมอบรมรู้สึกสนุกสนานและไม่เบื่อกับการอบรม เราสามารถที่จะนำวิธีการเหล่านนี้มาปรับประยุกต์ใช้ให้กับผู้เรียนได้เพื่อให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ที่ดีและรู้สึกเป็นบวกกับวิชาที่จะเรียน

Learning log

Learning log
(นอกห้องเรียน เช้า)
ในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ได้เข้าร่วมอบรมเป็นวันที่สอง ซึ่งการอบรมในช่วงเช้าของวันนี้ได้รับการอบรมจากท่านวิทยากร ผศ.ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร อีกวันหนึ่งสำหรับกิจกรรมการอบรมวันนี้ท่านวิทยากรได้บรรยายเกี่ยวกับ วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่ 21 ซึ่งมีวิธีการสอนมากมายที่ท่านวิทยากรได้กล่าวถึงตั้งแต่การเรียนภาษาในอดีต ว่าในอดีตจะเป็นการเรียนภาษาแบบท่องจำ วิธีการสอนแบบต่างๆมีดังนี้ 
 วิธีสอนแบบไวยากรณ์และการแปล (The Grammar – Translation Method ) เป็นการสอนที่เน้นแต่การเรียนไวยากรณ์และการแปล เพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านตำราได้ และมีการใช้วิธีสอนแบบนี้ในการสอนภาษาอังกฤษโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนอ่านได้เข้าใจ วิธีสอนแบบถัดไปคือ วิธีสอนแบบตรง มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารได้  ถัดไปคือ วิธีสอนแบบฟัง- พูด (The Audio – Lingual Method) การสอนภาษาควรเริ่มจากการฟัง พูด ซึ่งเป็นพื้นฐานไปสู่การอ่านและการเขียน จึงมีการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาซึ่งเริ่มต้นด้วยการพูด
ถัดไปวิธีสอนแบบเงียบ (The silent Way) วิธีสอนแบบนี้เป็นการเน้นความรู้ความเข้าใจเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีบทบาทส่วนผู้สอนเป็นผู้ช่วยเหลือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม ถัดไปวิธีสอนแนวธรรมชาติ ( The Natural Approach ) เป็นการพัฒนาทักษะทางภาษาเพื่อการสื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยที่ยังคงให้ความสำคัญของความถูกต้องในการใช้ไวยากรณ์ ถัดไป วิธีการสอนแบบชักชวน ( Suggestopedia ) เพื่อให้ผู้เรียนผ่อนคลายและให้ผู้เรียนพูดเมื่อผู้เรียนพร้อม
ถัดไปคือวิธีสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง มุ่งพัฒนาความเข้าใจในการฟังในช่วงต้นของการเรียนผู้เรียนแสดงท่าทางใช้คำสั่งเป็นหลักในการสอน ถัดไปการเรียนรู้แบบร่วมมือ ( Cooperative Learning) ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบกลุ่มย่อยๆ ถัดไปการเรียนรู้แบบเน้นภาระงาน (Task – Based Learning) การเรียนรู้จากการทำโครงงาน (Project – Based Learning )การทำงานด้วยตนเอง แนวการสอนแบบกำหนดสถานการณ์ แนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร เริ่มจากการฟังไปสู่การพูด การอ่านจับใจความสำคัญ ทำความเข้าใจ จดจำ แล้วนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ ถัดไปการสอนที่เน้นสาระการเรียนรู้ และสุดท้ายคือการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
เรื่องถัดไปที่ได้รับการฟังการบรรยายเป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาในศตวรรษที่ 21 สำหรับการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน ซึ่งในการเรียนการสอนในยุคนี้จะต้องเป็นการเรียนการสอนแบบ ห้องเรียนกลับทางคือแต่เดิมครูผู้สอนให้การบ้านนักเรียนไปทำที่บ้านและในทางกลับกันคือ นำการบ้านนั้นมาทำในชั้นเรียนเพราะบางครั้งเวลาที่นักเรียนทำการบ้านและเกิดข้อติดขัดและเวลานั้นเป็นเวลาที่นักเรียนต้องการครูเพื่อมาช่วยชี้แจง ส่วนเนื้อหาในการบรรยายนั้นเป็นสิ่งที่ผู้เรียนสามารถที่จะค้นหาและศีกษาด้วยตนเองได้ การศึกษาด้วยวิธีนี้จะช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ได้เร็วขึ้น เพื่อเหลือเวลาให้กับเด็กโดยเฉพาะทักษะการคิดวิเคราะห์

ซึ่งจากการอบรมในช่วงเช้าของวันนี้ได้รับความรู้มากมายเกี่ยวกับวิธีการจัดการเรียนการสอนในแบบต่างๆแต่ในชั้นเรียนของเราส่วนใหญ่การจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านยังเห็นได้น้อยเพราะส่วนใหญ่แล้วเราจะคุ้นเคยกับการเรียนการสอนแบบที่ครูเป็นผู้บรรยายเนื้อหาและสั่งงานให้นักเรียนไปทำแต่ไม่ถามถึงปัญหาในการทำงานของผู้เรียนว่าสามารถที่จะทำได้หรือเปล่าเพราะเหตุนี้การเรียนการสอนของคนไทยจึงยังด้อยและมีการพัฒนาที่ช้ากว่าประเทศอื่นๆ

Learning log

Learning log บ่าย
ในวันที่ 29 ตุลาคม ช่วงบ่ายได้เข้าฟังอบรมต่อกับ ผศ. ดร. ศิตา เยี่ยมขันติถาวร ได้อบรมเกี่ยวกับเรื่องการใช้ภาษาของคนในยุคปัจจุบัน เช่นการพูดทับศัพท์ของคนในปัจจุบัน มักจะใช้คำศัพท์ภาษาไทยทับศัพท์ภาษาอังกฤษ เช่น คำว่า ชิล ชิล chill chill, เอ้าท์ out, โอเวอร์ over, แจม jam, แบ็ค back, นอย noy ซึ่งวัยรุ่นไทยมักจะใช้คำเหล่านี้ในการพูดคุยสื่อสารกันโดยทั่วไปซึ่งในภาษาอังกฤษจริงๆไม่ได้มีหรือใช้คำเหล่านนี้
จากกนั้นท่านก็ได้ให้หาคำศัพท์ภายในห้องอบรมตั้งแต่ อักษรตัวแรกคือ A-Z ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรมสามารถจะตอบคำศัพท์ที่มีอยู่ในห้องได้ทุกตัวซึ่งเราจะเห็นได้ว่าการเรียนรู้คำศัพท์นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นและง่ายต่อการที่จะศึกษามากเพราะไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนหรือส่วนไหนเราก็สามารถที่ศึกษาคำศัพท์จากสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ตลอดเวลา จากนั้นก็ได้เล่นเกมส์เกี่ยวกับการค้นหาคำคัพท์คือ ซึ่งผู้ที่ได้คำศัพท์มากที่สุดจะได้รับของรางวัล
เรื่องต่อไปคือสอนเกี่ยวกับการออกเสียงซึ่งการออกเสียงเป็นปัญหาทีสำคัญมากของคนไทยเพราะเมื่อสื่อสารออกไปแล้วไม่สามารถทำให้ชาวต่างชาติเข้าใจได้โดยเฉพาะคนไทยส่วนใหญ่มักจะขาดเสียงพยัญชนะท้ายกันจึงทำให้การสื่อสารไม่รู้เรื่อง วิทยากรสอนให้ออกเสียงพยัญชนะและเสียงสระที่ถูกต้องและสอนเกี่ยวกับอวัยวะเกี่ยวกับการออกเสียงว่าเสียงสามารถที่จะออกมาได้นั้นจะต้องผ่านอวัยวะใดมาบ้าง
จากนั้นวิทยากรก็ได้แนะนำการสอนเกี่ยวกับกับ Role play ว่าคือการแสดงบทบาทสมมุติของผู้เรียนซึ่งผู้สอนทำหน้าที่แค่อย่างเดียวคือ ชมการแสดงบทบาทสมมุติของผู้เรียนโดยการให้ผู้เรียนแสดงในสิ่งที่ตนเคยพบเจอมาถ่ายทอดให้ซึ่งการจัดการเรียนการสอนแบบนี้จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนให้ผู้เรียนด้วย
 ซึ่งจากการเข้าอบรมในวันนี้ได้รับความรู้มากมายไม่ว่าจะเป็น การใช้คำศัพท์การค้นหาคำศัพท์ทักษะการออกเสียงและอวัยวะเกี่ยวกับการออกเสียงของมนุษย์และการเล่นเกมส์เพื่อเป็นการเรียกความสนใจให้กับผู้เรียนและเป็นการเสริมแรงให้กับผู้เรียนโดยการมอบของรางวัลเพื่อให้ผู้เรียนรู้สึกอยากที่จะเรียนรู้มากที่สุดและบทบาทของผู้เรียนและผู้สอนในยุคปัจจุบันว่าผู้สอนจะต้องมีบทบาทอย่างไรและผู้เรียนจะต้องค้นคว้าค้นหาด้วยตนเองให้มากที่สุดและนำมาแลกเปลี่ยนกับเพื่อเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของการเรียนในปัจจุบัน


                

Learning log week 13 เช้า

Learning log week 13  เช้า

ในวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ดิฉันได้เข้าอบรมเชิงปฏิบัติการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ ซึ่งขั้นตอนแรกตั้งแต่เริ่มเข้าอบรมคือ ต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าอบรมและเมื่อถึงเวลาก็ได้มีพิธีเปิดการอบรมโดย ดร. สุจินต์ หนูแก้ว กล่าวรายงาน และท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชกล่าวเปิดงานและต้อนรับวิทยากร และในการอบรมครั้งนี้มีวิทยากรคนสำคัญคือ ผศ.ดร. ประกาศิต สิทธิ์ธิติกุล นายกสามคมครูสอนภาษาอังกฤษแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมโดยการเป็นวิทยากรครั้งนี้ด้วย
ซึ่งในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 09.15-10.15 น. ได้รับฟังการเสวนาเกี่ยวกับเรื่องวิชาการงานวิจัย หัวข้อ Beyond  Language Learning โดยมีผู้ร่วมเสวานาคือ  ดร. สุจินต์ หนูแก้ว , อาจารย์สุนทร บุญแก้ว อาจารย์จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และผศ.ดร. ประกาศิต สิทธิ์ธิติกุล เป็นผู้ดำเนินรายการ ในการเสวนาได้กล่าวเกี่ยวกับการศึกษาในปัจจุบันว่าทุกวันนี้การศึกษาจะเน้นทักษะต่างๆอย่างเห็นได้ชัดซึ่ง ผศ.ดร. ประกาศิต สิทธิ์ธิติกุล ได้พูดถึงทักษะการเรียนรู้สิ่งต่างๆที่ใช้ในปัจจุบันนี้ว่าเป็น 5C ซึ่งได้แก่ 1. Communication ทักษะที่ต้องใช้ในกาเรียนรู้คือการสื่อสาร  2. Cultural การเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาติต่างๆ   3. Connection  มีการเชื่อมต่อกับบุคคลต่างๆ  4.Comparison มีการเปรียบเทียบในการเรียนรู้ และทักษะที่  5.  คือ Community  ทักษะเหล่านนี้  ผศ.ดร. ประกาศิต สิทธิ์ธิติกุล ได้กล่าวว่าครูในศรรตวรรษที่ 21 จะต้องมี
แต่ ดร. สุจินต์ หนูแก้ว ได้เสนอแนวความคิดว่าจากการทำงานวิจัยของตนเองซึ่งท่านได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับทักษะการคิดและท่านได้กล่าวว่าคุณลักษณะที่คนในยุคศตวรรษที่ 21 จะต้องมีไม่ใช่เพียง 5C แต่ต้องมีด้วยกันถึง 7C ความสามารถพื้นฐาน ประกอบด้วย การอ่านการเขียนและการคิดคำนวณซึ่งทักษะการคิด นั้นเป็นทักษะที่สำคัญมากที่สุด ทักษะ 7C ประกอบด้วย  Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา, Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม), Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์), Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ), Communications, Information, and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ), Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้)  
และอาจารย์สุนทร บุญแก้ว อาจารย์จากมหาวิทยาลับวลัยลักษณ์ ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการเรียนของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ของสาขาการท่องเที่ยวซึ่งผู้เรียนแต่ละคนจะต้องไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ 3 เดือนเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ในสถานการณ์ที่เป็นจริงซึ่งให้ผู้เรียนได้ใช้ชีวิตในต่างประเทศด้วยตนเองซึ่งเมื่อกลับมาก็พบว่าการศึกษาแบบนี้ช่วยส่งผลที่ดีให้กับผู้เรียนและผู้เรียนแต่ละคนก็จะสนใจการเรียนรู้แบบนี้มาก และการสอนของอาจารย์สุนทร บุญแก้ว อาจารย์จะใช้วิธีการสอนที่นำสิ่งของจากท้องถิ่นนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนเพื่อสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ถึงสิ่งของที่มีอยู่ในท้องถิ่นและนำสิ่งเหล่านนั้นมาประยุกต์ใช้เข้ากับห้องเรียนได้
ในและเวลา 10.30 น. ได้อบรมเกี่ยวกับเรื่องภาษาเพื่อการสื่อสาร โดยผศ.ดร. ศิตาเยี่ยมขันติถาวรเป็นวิทยาในการอบรม ซึ่งท่านได้สอนเกี่ยวกับการการใช้ภาษาซึ่งในปัจจุบันนี้ภาษาที่เป็นภาษากลางที่ใช้ในการสื่อสารคือภาษาอังกฤษ แต่จะเห็นได้ว่าภาษาที่คนใช้มากที่สุดในโลกไม่ใช่ภาษาอังกฤษแต่เป็นภาษา Mandarin แต่ทำไมภาษาอังกฤษถึงได้เป็นภาษากลางของโลกนั่นก็เพราะว่า ในอินเตอร์ภาษาที่ใช้คือภาษาอังกฤษเพราะเหตุนี้ภาษาอังกฤษจึงถือเป็นภาษากลางของโลกและท่านวิทยากรได้พูดเกี่ยวกับที่มาของคำศัพท์แต่ละคำว่า คำศัพท์ทุกคำล้วนแต่มีที่มาทั้งสิ้น
ซึ่งจากการการเข้าอบรมในช่วงเช้าของวันนี้ได้รับความรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตของคนในยุคศตวรรษที่ 21 ว่าจะมีทักษะใดบ้างเพื่อที่จะได้ก้าวได้ตามทันโลกการเรียนรู้ซึ่งทักษะต่างๆไม่ว่าจะเป็น 5C หรือ 7Cก็ล้วนแต่เป็นที่ทักษะที่ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของตัวผู้เรียนและมีวิธีการที่จะนำสิ่งของท้องถิ่นมาปรับใช้เข้ากับการเรียนรู้ของ อาจารย์สุนทร บุญแก้ว กับการเรียนรู้แบบนี้ดิฉันคิดว่าเป็นการถ่ายทอดสิ่งของที่มีให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากการเรียนในตำราเพื่อเป็นทักษะการใช้ชีวิต ซึ่งการเรียนรู้ต่างๆนั้นเพื่อนำทักษะที่ได้รับนั้นมาปรับใช้กับตัวของตนเองเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด


Learning log week 12

Learning log  week 12
(นอกห้องเรียน)
ในวันที่  22 ตุลาคม 2558 ดิฉันได้ฝึกทักษะการฟังซึ่งเป็นทักษะเกี่ยวกับการฟังเพลง ซึ่งการฟังเพลงนอกจากจะได้ทั้งความสนุกแล้วยังได้ฝึกเกี่ยวกับการเรียนรู้คำศัพท์ และการอ่านออกเสียงของคำศัพท์นั้นๆซึ่งสามารถนำมาฝึกออกเสียงคำศัพท์ที่ถูกต้องได้จากเพลงและเป็นการเพิ่มคลังคำศัพท์ให้แก่ตัวเราเอง  ซึ่งเพลงที่ได้ยกมาเพื่อศึกษาเป็นพิเศษสองเพลงคือเพลง Let her go ร้องโดย Passenger และอีกเพลงคือเพลง Blank space ร้องโดย Taylor Swift
ทั้งสองเพลงที่เลือกมาจากการฟังครั้งแรกโดยที่ไม่มีเนื้อเพลงประกอบฟังไม่ค่อยออกว่าคำแต่ลำคำเป็นคำอะไรและเริ่มฟังครั้งที่สองและมีเนื้อเพลงประกอบก็ได้รู้ว่ามีคำศัพท์ใดบ้างและหลังจากที่ฟังเรื่อยๆก็ฝึกออกเสียงโดยการร้องเพลงตามไปด้วย ซึ่งการทำแบบนี้นอกจากจะได้เรียนรู้แล้วยังได้เพิ่มเพลงใหม่ด้วย ซึ่งมีเนื้อเพลงดังนี้

เพลง Let her go

*Well you only need the light when it’s burning low
คุณต้องการแสงสว่าง ก็ต่อเมื่อไฟเริ่มมอดลง
Only miss the sun when it starts to snow
จะคิดถึงดวงอาทิตย์ ก็ต่อเมื่อหิมะเริ่มโปรย
Only know you love her when you let her go
คุณจะรู้ว่าคุณรักเธอ ก็ตอนที่คุณเสียเธอไป
*Only know you’ve been high when you’re feeling low
รู้ว่าคุณเคยอยู่สูงแค่ใหน เมื่อตอนที่คุณรู้สึกตกต่ำ
Only hate the road when you’re missin’ home
รู้สึกเกลียดถนน เมื่อคุณกำลังจะจากบ้านไป
Only know you love her when you let her go
คุณจะรู้ว่าคุณรักเธอ ก็ตอนที่คุณเสียเธอไป
And you let her go
และคุณก็เสียเธอไป
Staring at the bottom of your glass
จ้องมองไปที่ก้นแก้วของคุณ
Hoping one day you’ll make a dream last
หวังว่าสักวัน คุณจะทำความฝันของคุณให้เป็นจริง
But dreams come slow and they go so fast
แต่ความฝันนั้น มันช่างช้าเหลือเกิน และมันก็จากเขาไปไวเห
ลือเกิน
You see her when you close your eyes
คุณมองเห็นเธอ เมื่อยามที่คุณหลับตาลง
Maybe one day you’ll understand why
สักวันคุณอาจจะเข้าใจว่าทำไม
Everything you touch surely dies
ทุกๆสิ่งที่คุณสัมผัส แน่นอนสักวันต้องจากไป
*But you only need the light when it’s burning low
คุณจะรู้ว่าคุณต้องการแสงสว่าง ก็ต่อเมื่อไฟเริ่มมอดลง
*Only miss the sun when it starts to snow
จะคิดถึงดวงอาทิตย์ ก็ต่อเมื่อหิมะเริ่มโปรย
Only know you love her when you let her go
คุณจะรู้ว่าคุณรักเธ
อ ก็ตอนที่คุณเสียเธอไป
Staring at the ceiling in the dark
จ้องมองเพดานในความมืดมิด
Same old empty feeling in your heart
และก็หวนถึงความรู้สึกว่างเปล่าเดิมๆ ที่อยู่ในใจคุณ
‘Cause love comes slow and it goes so fast
เพราะว่าความรักนั้นช่างมาช้า และจากไปเร็วเสียเหลือเกิน
Well you see her when you fall asleep
คุณจะพบเธอ เมื่อตอนที่คุณหลับไหล
But never to touch and never to keep
แต่ไม่มีวันที่คุณจะสัมผัส และรักษาเธอไว้ได้อีก
‘Cause you loved her too much
เพราะว่าคุณนั้นรักเธอมากไป
And you dived too deep
และคุณจมอยู่กับมันมากเกินไป
And you let her go (oh, oh, ooh, oh no)
และคุณก็ปล่อยเธอไป (โอ โอ โอ้ โอ โน)
And you let her go (oh, oh, ooh, oh no)
และคุณก็ปล่อยเธอไป (โอ โอ โอ้ โอ โน)
Will you let her go?
คุณจะยอมเสียเธอไปมั้ย?
‘Cause you only need the light when it’s burning low
เพราะว่าคุณต้องการแสงสว่าง ก็ต่อเมื่อไฟเริ่มมอดลง
Only miss the sun when it starts to snow
คิดถึงดวงอาทิตย์ เมื่อหิมะเริ่มโปรย
Only know you love her when you let her go
คุณจะรู้ว่าคุณรักเธอ ก็ตอนที่คุณเสียเธอไป
เพลงที่สองเป็นเพลงทีผู้หญิงร้องเป็นเพลงแนวสนุกสนานน่าฟังเพลิดเพลินและในเพลงก็มีคำศัพท์ใหม่ๆให้เรียนรู้ ซึ่งมีเนื้อเพลงดังนี้

เพลง Blank space

Nice to meet you Where you been?
ยินดีที่ได้รู้จักนะ ไปยังไงมายังไงล่ะ

I could show you incredible things
ฉันสามารถแสดงให้เธอเห็น สิ่งอัศจรรย์ต่าง ๆ

Magic, madness, heaven, sin
ทั้งมนตรา, ความบ้าคลั่ง, สรวงสวรรค์, ขุมนรก

Saw you there and I thought
พอเห็นเธอที่นั่น ฉันก็คิดว่า

oh my god, Look at that face, you look like my next mistake
โอ้..พระเจ้า มองดูที่หน้าเธอแล้ว เธอดูเหมือนกับความผิดพลาดครั้งใหม่

Love’s a game, wanna play?
ความรักก็เหมือนกับเกมส์ อยากลองเล่นไม๊?
New money, suit and tie
ไฮโซหน้าใหม่ แต่งตัวใส่สูทผูกไทค์

I can read you like a magazine
ฉันอ่านใจเธอออกเหมือนกับอ่านนิตยสาร

Ain’t it funny rumors fly
มันตลกดีใช่ไม๊ล้ะ กับข่าวลือที่แพร่ออกไป

And I know you heard about me
และฉันรู้ว่าเธอเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับตัวฉัน

So hey, let’s be friends
งั้นก็มาเถอะ มาเป็นเพื่อนกัน

I’m dying to see how this one ends
ฉันแทบจะรอดูไม่ไหวแล้ว ว่าความสัมพันธ์นี้จะจบลงอย่างไร

Grab your passport and my hand
หยิบหนังสือเดินทางของเธอและจูงมือฉันเอาไว้

I could make the bad guys good for a weekend
ฉันสามารถทำให้ผู้ชายเสเพล ทำตัวดีขึ้นได้ในช่วงสุดสัปดาห์
****So it’s gonna be forever
ซึ่งครั้งนี้มันจะยั่งยืนหรือเปล่า

Or it’s gonna go down in flames
หรือ มันจะจมลงสู่เปลวเพลิงกันนะ

You can tell me when it’s over
เธอสามารถบอกกับฉันได้ เมื่อมันยุติลง

If the high was worth the pain
ถ้าผลลัพธ์ที่ได้ มันคุ้มค่ากับความเจ็บปวด

Got a long list of ex-lovers
มีลิสต์รายชื่อของคนรักเก่าที่ยาวเหยียด

They’ll tell you I’m insane
พวกเขาจะบอกเธอว่า ฉันเป็นคนไร้เหตุผล

Cause you know I love the players
เธอรู้อยู่แล้วล่ะว่าฉันชอบนักพนัน

And you love the game
และเธอเองก็ชอบเดิมพันกับเกมส์นั้น

*****Cause we’re young and we’re reckless
เพราะพวกเรายังอ่อนเยาว์และไม่ระวังให้ดี

We’ll take this way too far
พวกเราจึงเดินตามเส้นทางนี้มาไกลเกินไป

It’ll leave you breathless
ซึ่งมันจะปล่อยเธอไว้แบบไร้ลมหายใจ

Or with a nasty scar
หรือไม่ก็ด้วยบาดแผลเป็นที่ไม่อาจลบได้

Got a long list of ex-lovers
มีลิสต์รายชื่อของคนรักเก่าที่ยาวเหยียด

They’ll tell you I’m insane
พวกเขาจะบอกเธอว่า ฉันเป็นคนไร้เหตุผล

But I got a blank space baby
แต่ฉันพอจะมีที่ว่างเหลือนะ ที่รัก

And I’ll write your name
และฉันจะเพิ่มชื่อเธอลงไป

*Cherry lips Crystal skies
ริมฝีปากสีแดงดั่งลูกเชอร์รี่ ท้องฟ้าสดใสดั่งคริสตัล

I could show you incredible things
ฉันสามารถแสดงให้เธอเห็น สิ่งอัศจรรย์ต่าง ๆ
Stolen kisses, pretty lies
อย่างการขโมยจุมพิต กับการโป้ปดที่แสนหวาน

You’re the king baby I’m your queen
เธอคือราชา และฉันก็เป็นราชินีของเธอนะ ที่รัก

Find out what you want
ได้รู้ว่าเธอต้องการอะไร
Be that girl for a month
และเป็นผู้หญิงแบบที่เธอต้องการซักหนึ่งเดือน

But the worst is yet to come
แต่สิ่งเลวร้ายจริง ๆ ยังมาไม่ถึงนะ
Oh no
โอ้ ไม่

*Screaming, crying, perfect storms
เสียงกรีดร้อง คร่ำครวญ พายุโหมกระหน่ำ

I could make all the tables turn
ฉันสามารถที่จะล้มโต๊ะทั้งหมดได้

Rose garden filled with thorns
สวนกุหลาบที่เต็มไปด้วยหนามแหลม

Keep you second guessing like
ให้เธอต้องเดาเป็นครั้งที่สองว่า..

oh my god Who is she?
โอ้ พระเจ้า เธอคนนั้นเป็นใครกัน?

I get drunk on jealousy
ฉันดื่มและเมามายกับความริษยา

But you’ll come back each time you leave
แต่เธอก็จะกลับมา ทุกครั้งที่เธอจากไป

Cause darling I’m a nightmare dressed like a daydream
นั่นเพราะว่า ฉันคือฝันร้าย ที่แสร้งสร้างวิมานในอากาศกับเธอไงล่ะ ที่รัก
*Boys only want love if it’s torture
หนุ่มๆโหยหาความรัก แม้ว่ามันจะทรมาน

Don’t say I didn’t say I didn’t warn you
อย่าบอกนะ ว่าฉันไม่ได้พูดเตือนสติคุณก่อน

Boys only want love if it’s torture
หนุ่มๆโหยหาความรัก แม้ว่ามันจะทรมาน

Don’t say I didn’t say I didn’t warn you
อย่าบอกนะ ว่าฉันไม่ได้พูดเตือนสติคุณก่อน
Vocabulary in song Burning ที่ถูเผาผลาญ, Staring , dived การพุ่ง, incredible ซึงไม่น่าเชื่อ, madness ความวิกลจริต, sin บาป, mistake ความผิด, tie เน็คไทด์, rumors ข่าวลือ, ex-lovers, insane ซึ่งขาดสติ, reckless สะเพร่า, breathless หายใจลำบาก, nasty สิ่งที่น่ารังเกียจ, scar แผลเป็น, space ที่ว่าง, Crystal คริสต์ตัล, Screaming กรีดร้อง, jealousy ความอิจฉาริษยา, nightmare ฝันร้าย, torture การทรมาน

ดังการการฝึกทักษะการฟังเพลงนั้นเป็นการฝึกภาษาที่ดีอย่างหนึ่งของเราเพราะไม่ได้ให้แค่ความสนุกสนานแต่หากเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้เข้ากับการเรียนรู้ได้อย่างดีแค่การฟังเพลงก็จะช่วยพัฒนาทักษะการการและการพูดของเราได้โดยการปฏิบัติข้างต้นที่ได้กล่าวมาแล้วคือการฝึกเป็นลำดับ หากเราสามารถที่จะฟังเพลงได้เข้าใจแล้รู้เรื่องหากเราจำเป็นต้องสื่อสารกับชาวต่างชาติเราก็สามารถสื่อสารกับเขาได้อย่างไม่ต้องอาย