วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Learning log Week 2


Learning  log  Week  2

จากการศึกษาภายในชั้นเรียนดิฉันได้ศึกษาเกี่ยวกับ  KWL  ซึ่งเป็นการประเมินตนเอง  Metacognition  และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนการสอน  2  ปี  ที่ผ่านมา  และหลักในการเรียนภาษาที่ดีควรเป็นอย่างไรและการศึกษานอกชั้นเรียน ได้อ่านทำความเข้าใจเกี่ยวกับ  กลยุทธ์ในการเรียนภาษาที่จะนำมาใช้ในการเรียนของตนเองเพื่อที่จะเป็นแนวทางและนำไปปฏิบัติ
ในการศึกษาของเรานั้นจะต้องบอกตัวเองให้ได้ว่าตัวเรามี  KWL  แล้วหรือยังเพื่อที่จะเป็นการประเมินตนเองว่าตัวเรารู้หรือไม่รู้เรื่องใด
            K       =        What   you    know                        รู้อะไร
            W      =        What   you  want   to  know             ต้องการรู้อะไร
            L        =        What   you  have   to  learn             จะเรียนอะไร
และได้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจในการสอนของอาจารย์ในหลักสูตร  ปรากฏว่าเพื่อนๆส่วนใหญ่ชอบวิธีการสอนในบรรยากาศที่ไม่ตึงเครียดมีความสนุกสนาน  อาจารย์ไม่ได้แค่เพียงเนื้อหาในหนังสือเท่านั้นแต่ยังสอดแทรกวิธีการคิดและการดำเนินชีวิตในแต่ละวันด้วย  และได้มีการสำรวจตัวเองเกี่ยวกับความรู้ของตัวเองตั้งแต่เริ่มเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช  ว่าเราได้รับความรู้อะไรบ้างปรากฏว่าทั้งเพื่อนๆและตัวดิฉันมีความรู้เพิ่มเติมกันไม่มากก็น้อยไม่ว่าจะเป็นทักษะทางการฟัง  พูด  อ่าน  เขียน  ในการเรียนภาษาที่ดีได้นั้นจะต้องมีหลักการที่จะช่วยทำให้เราเรียนภาษาได้ดีขึ้นมีอยู่  2 ทางด้วยกัน  คือ  1.  ผู้ส่งสารส่งสารไปแล้วผู้รับสารสามารถตอบกลับได้  แสดงว่าผู้รับสารรู้เรื่องเข้าใจ  2.  ส่งสารไปแล้วผู้รับสารไม่มีการตอบกลับถือเป็นถือเป็นการส่งสารทางเดียว  ผู้ส่งสารไม่สามารถรู้ได้ว่าสารเข้าใจหรือไม่ซึ่งสิ่งที่จะช่วยทำให้ทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารสื่อสารกันได้รู้เรื่องจะต้องมีกลยุทธ์ในการเรียนรู้  ภาษาเป็นแนวทางให้กับเรา
            กลยุทธ์การเรียนภาษา  เขียนโดย  รศ.ดร.  สมศีล  ฌานวังศะ  กล่าวไว้ว่า  การเรียนภาษาแตกต่างจากการเรียนวิชาอื่นๆเป็นส่วนใหญ่  ตรงที่ว่าต้องมีสองด้านควบคู่กันไป  คือ  ความรู้และทักษะ  ความรู้เป็นภาคทฤษฎี  ส่วนทักษะ(หรือความชำนาญที่เกิดจากการฝึกฝน)  เป็นภาคปฏิบัติ  การเรียนแต่ภาคทฤษฎีโดยไม่ฝึกปฏิบัติย่อมไม่อาจทำให้บรรลุเป้าหมายคือสามารถใช้ภาษาได้”  การเรียนภาษาให้ได้ดีต้องเริ่มต้นจากตัวผู้เรียนเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดซึ่งถ้าผู้เรียนจะเรียนให้ได้ดีนั้นต้องมีกลยุทธ์ในการเรียนภาษาดังนี้  1.  ศึกษา  การเรียนภาษาจะต้องเริ่มจากความรู้เกี่ยวกับตัวภาษาก่อนโดยตรงเสมอเปรียบเสมือนเสหลักมีอยู่สองด้น  คือ  ศัพท์  กับไวยากรณ์  นอกจากตัวภาษาแล้วยังมีอีกสองด้าน  คือ  ความรู้พื้นฐานของธรรมชาติของภาษา  กับความรู้เกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรมของชนชาติเจ้าของภาษา  2.  ฝึกฝน  จำต้องผ่านอินทรีย์  ทั้ง  6  ด้าน  คือ   ตา-ดู , หู-ฟัง,  ปาก-พูด  ,มือ-เขียน, หัว-คิด  ใ,-รัก  3.  สังเกต  ภาษาอังกฤษมีเนื้อหามาก  ผู้เรียนจึงต้องเป็นคนช่างสังเกตละเอียดรอบคอบ  4.  จดจำ  การเรียนภาษาแค่การฝึกฝนอย่างเดียวไม่พอแต่ต้องอาศัยการท่องจำด้วยเพื่อให้เกิดผล  5.  เลียนแบบ  6.  ดัดแปลง  เมื่อเลียนแบบก็ต้องรู้จักดัดแปลงให้เข้ากับเหตุการณ์และวัตถุประสงค์  7.  วิเคราะห์  การวิเคราะห์มี  3 ระดับ  1)  ระดับศัพท์  2)  ระดับไวยากรณ์  3)  ระดับถ้อยความ 
8.  ค้นคว้า   9. ใช้งาน   จากสิ่งที่ได้เรียนรู้มา  10.  ปรับปรุง  เป็นการพัฒนาการใช้ภาษาและความก้าวหน้าในการใช้ภาษานั้นๆ
            สรุปได้ว่าถ้าเราจะเรียนภาษาได้ดีนั้นเราจะต้องประเมินตัวเองก่อนว่าเรามีความรู้หรือไม่รู้ในเรื่องนั้นๆมากน้อยเพียงใดและมีหลักในการเรียนภาษาที่ดี  คือ  ทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสารจะสามารถโต้ตอบและสื่อสารกันเข้าใจและสิ่งที่ช่วยให้เราเรียนภาษาได้ดียิ่งขึ้นนั้นต้องมีกลวิธีในการเรียนภาษา  10  องค์ประกอบด้วยกัน  ได้แก่  1.  ศึกษา  2.  ฝึกฝน  3. สังเกต  4.  จดจำ  5.  เลียนแบบ  6.  ดัดแปลง  7.  วิเคราะห์  8.  ค้นคว้า  9.  ใช้งาน  10.  ปรับปรุง  หากผู้เรียนภาษาสามารถปฏิบัติตามกลวิธีในการเรียนภาษาได้ก็จะเป็นการพัฒนาตนเองในการเรียนภาษาได้ดียิ่งขึ้น                                                          


                

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น