วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Leaning log week 5
( นอกห้องเรียน )
                คำแต่ละคำที่เราใช้เรียกสิ่งของต่างๆ เรามักจะใช้คำบ่งชี้ถึงสิ่งขิงนั้นๆและประเภทของคี่เราใช่บ่งชี้ คือ Determiner  Determiner  คือ  คำบ่งชี้ เป็นชื่อที่ใช้เรียกคำซึ่งบ่งบอกหรือกำหนดคำนามที่ผู้พูดและผู้ฟังรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงสิ่งใด ซึ่งคำประเภทนี้บางคำก็ใช้แระกอบหน้าคำที่เป็นคำคุณศัพท์ (adj)  บางคำที่ก็ใช้ลอยๆแทนคำนามได้โดยทำหน้าที่เป็นสรรพนาม(Pronoun) และมีบางคำที่สามารถทำหน้าที่ได้ทั้ง 2 อย่าง เล่นได้ทั้งคำคุณศัพท์และคำสรรพนามเช่น Give me some bread. (คุณศัพท์) Do you want some? (สรรพนาม)  Have you drunk enough water?
                ชนิดของคำบ่งชี้นำหน้า คำบ่งชี้ที่ใช้นำหน้าคำนามนอกจาก some, enough และยังมีคำอื่นๆอีก ซึ่งแบ่งออกได้เป็น สี่ชนิด คือ คำนำหน้าคำนาม(Article) ได้แก่ a, an, the ชนิดที่สองคือ คำแสดงความเป็นเจ้าของ my, mine, yours, you, her, his, their, theirs, our, ours, its, ‘s etc อีกชนิดก็คือ คำชี้เฉพาะ this, that, these, those, what, which, และชนิดสุดท้ายคือ คำบอกจำนวน ได้แก่ much, many, no, some, any, few, little, each, all, both, either, neither, two, three,… ect.
                การใช้งาน Determiner มีรูปแบบดังนี้ Determiner+ Adj. + N. คำบ่งชี้ที่พบเห็นบ่อยมีการใช้ดังนี้ much, many มีความหมายว่ามาก เหมือนกันแต่มีวิธีการใช้ต่างกัน คือ much ใช้กับคำนามที่นับไม้ได้ เช่น She hasn’t much money. (เธอมีเงินไม่มาก) , I haven’t much time to catch the bus. , They don’t have much water to drink. และ many จะใช้กับคำนามที่นับได้ และโดยเหตุที่ many แปลว่ามาก ดังนั้นคำนามที่ตามหลังจึงต้องเป็นพหูพจน์ เช่น I don’t have many cars. หรือ many a  ใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์ดังนั้นกริยาที่ตามหลังจึงเป็นเอกพจน์ เช่น Many a man works hard all life.
                การใช้ much many ปกติในประโยคปฏิเสธหรือประโยคคำถามเท่านั้น ดังนั้นเมื่อตอบรับประธานในประโยคบอกเล่าจึงต้องใช้คำอื่นที่มีความหมายเหมือนกัน เช่น Do you earn much money? No, not much.(ปฏิเสธ) หรือ Yes, I earn a great deal.(ตอบรับ) และในประโยคบอกเล่าจะไม่นิยมใช้ much many แต่นิยมใช้คำเหล่านี้แทน เช่น ใช้กับนามนับได้ (พหูพจน์) lot of, a lot of, plenty of หรือใช้กับนามไม่ได้ (เอกพจน์) lot of, a lot of, a great deal of,ตัวอย่างเช่น There are plenty of chairs for everyone. , I know a lot of person in China.
                คำต่อไป คือ much very, much เมื่อใช้เป็น Adv. มีความหมายว่ามาก เช่นเดียวกับ very แต่มรการใช้งานแตกต่างกันดังนี้ much ใช้ขยายคำกริยา ส่วน very ใช้ขยายคำคุณศัพท์ หรือขยายกริยาวิเศษณ์ เช่น She has never worked much since her accident. หรือ You look very sad หรือ much ใช้ขยายกริยาช่อง แต่veryใช้ขยายกริยาเติม –ing ซึ่งทำหน้าที่เป็น Adj. ยกเว้น Past participle บางคำซึ่งนำไปใช้อย่างคำคุณศัพท์ธรรมดาใช้ very ขยายได้เหมือนกับเป็นคำคุณศัพท์ทั่วไป เช่น แบบปกติได้แก่  The news is very interesting, I was much surprised at hearing that news. และแบบยกเว้นได้แก่  I am very pleased to meet you a gain.
                คำต่อไปนี้ few, a few, little, a little สองคำนี้แปลว่า น้อย เหมือนกันตี่วิธีการใช้ต่างกันดังนี้ few, a few ใช้มนความหมายตรงกันข้ามของ many โดยใช้กับคำนามที่นับได้และคำนามหลัง few,  a few ต้องเป็นคำนามพหูพจน์เสมอ สำหรับ few จะมีความหมายในทำนองน้อย แทบจะไม่มีเลยส่วน a few แต่น้อยพอมีอยู่บ้าง เช่น She has few friends. He has a few friends.
                การใช้ some , any ทั้งสองคำนี้ มีความหมายว่า บ้าง ใช้ได้กับคำนามนับได้พหูพจน์และคำนามนับไม่ได้เอกพจน์ เช่น some books , some rice, any books, any rice. การใช้ some ในประโยคบอกเล่าทั่วไป เช่น He is looking for some books.  I want some tea.  และใช้ในประโยคคำถาม ในกรณีที่คิดว่าผู้ตอบจะตอบรับหรืออยากให้ตอบรับเช่นกัน เช่น May I have some orange juice? หรือ Did she gave you some flowers?
                การใช้ any ในประโยคที่มีความหมายปฏิเสธ ซึงได้แก่ประโยคปฏิเสธทั่วไปและประโยคที่มีคำเหล่านี้ เช่น never, scarely, without, rarely, hardly, seldom, เช่น He worked hard but without any success. , I don’t want any tea. หรือใช้ในประโยคที่มี if หรือ whether เช่น  Do you have any question? หรือ I don’t know whether I will have any money left over after the trip. หรือใช้ในประโยคบอกเล่าที่มีความหมายก็ได้ เช่น You can sleep any time you want. หรือ I will go to see her any day I want.
                คำผสมของ some any มักเขียนติดกันใช้เป็นคำกริยาวิเศษณ์ได้แก่ คำดังนี้ someone, somebody มีรูปเป็นเอกพจน์เสมอ เช่น Their’ s somebody at the window. หรือ something มีรูปเป็นเอกพจน์เสมอ เช่น There ‘ s something I want to tell you. หรือ sometime เป็นได้ทั้งคุณศัพท์และคำกริยาวิเศษณ์ เช่น I was a sometime swimmer หรือใช้ sometime เป็นกริยาวิเศษณ์ เช่น She goes there sometimes. Somewhat เป็นกริยาวิเศษณ์ เช่น This problem is somewhat difficult. Somewhere เช่น She look at him as if she has ever seen him somewhere. หรือจะใช้ someway, somehow, และ anyhow เป็นรูปปฏิเสธของ somehow, someway

                ดังนั้น การใช้ Determiner จะมีทั้งหมด 4 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดแต่ละคำจำมีการใช้ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับคำนามนั้นๆว่าจะเป็นนามเอกพจน์หรือพหูพจน์และเราต้องเลือกใช้ตัวบ่งชี้ให้ตรงกับคำนามนั้น และDeterminer เราจะใช้ได้ทั้งในประโยคบอกเล่า คำถาม และปฏิเสธและต้องสังเกตคำนามว่าเราจะใช้คำไหนมาเติมเต็มให้ประโยค หากเราเข้าใจก็จะสามารถเลือกคำมาใช้ในประโยคได้ถูกต้องและสมบูรณ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น